top of page
ค้นหา

"กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” หลักประกันใหม่แรงงานไทย เริ่ม 1 ตุลาคม 2568

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างคืออะไร?

กองทุนนี้ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 126 และดำเนินการโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ

✅ เป็นหลักประกันให้ลูกจ้าง ในกรณีออกจากงานหรือตายในระหว่างการทำงาน

✅ สร้างเงินออมสะสม ที่ลูกจ้างสามารถใช้เมื่อออกจากงาน

✅ ลดภาระของนายจ้าง ในการจัดหาสวัสดิการที่เกี่ยวข้อง


📌 ใครบ้างที่ต้องเข้ากองทุนนี้?

🔹 นายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องดำเนินการให้ลูกจ้างสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุน

📌 นายจ้างที่ได้รับการยกเว้น ได้แก่

🔹กิจการที่มี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตาม พ.ร.บ. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530

🔹กิจการที่จัดให้มีการสงเคราะห์ลูกจ้างเองตามกฎกระทรวง ปี 2567

มูลนิธิ สมาคม หรือองค์กรไม่แสวงหากำไรทางเศรษฐกิจ

📌 นายจ้างต้องเตรียมตัวอย่างไร?

1.ตรวจสอบจำนวนลูกจ้าง หากมี 10 คนขึ้นไป ต้องเตรียมสมัครเข้ากองทุน

2.จัดทำทะเบียนรายชื่อและข้อมูลลูกจ้าง เพื่อยื่นแบบแสดงรายการลูกจ้าง

3.ปรับระบบบัญชีเงินเดือน (Payroll) เพื่อให้สามารถหักเงินสะสมลูกจ้างและเงินสมทบของนายจ้างได้อัตโนมัติ

4.วางแผนงบประมาณของบริษัท สำหรับค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินสมทบ

5.แจ้งข้อมูลให้พนักงานทราบ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากกองทุน

6.เตรียมระบบนำส่งเงินกองทุน ให้ถูกต้องและตรงตามกำหนดเวลา


📌 เงื่อนไขการหักเงินสะสมและเงินสมทบ

📍 อัตราการส่งเงินสะสมและเงินสมทบ

🔹 ช่วงปี 2568-2573: ฝ่ายลูกจ้างและนายจ้างจ่ายฝ่ายละ 0.25% ของค่าจ้าง

🔹 ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป: ฝ่ายลูกจ้างและนายจ้างจ่ายฝ่ายละ 0.50% ของค่าจ้าง


📍 ค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานคำนวณ

การหักเงินสะสมและเงินสมทบจะคำนวณจาก ค่าจ้างทั้งหมด ที่ลูกจ้างได้รับ ซึ่งรวมถึง

✅ ค่าจ้างรายเดือน รายวัน หรือค่าจ้างตามผลงาน


📍 วิธีการหักเงิน

✔️ นายจ้างจะต้องหักเงินสะสมของลูกจ้างจากค่าจ้างโดยตรงทุกงวดการจ่ายเงินเดือน

✔️ นายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมให้กับกองทุนในอัตราที่กำหนด

✔️ ต้องนำส่งเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป


📌 หากนายจ้างไม่นำส่งเงินตามกำหนด?

⚠️ ต้องเสียเงินเพิ่ม 5% ต่อเดือน ของยอดเงินที่ขาดส่ง

⚠️ หากไม่ดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด พนักงานตรวจแรงงานจะออกหนังสือแจ้งเตือน และนายจ้างต้องนำส่งเงินที่ค้างจ่ายภายใน 30 วัน

⚠️ บทลงโทษตามกฎหมาย: นายจ้างที่ไม่ยื่นแบบแจ้งข้อมูล หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ จะได้รับโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


📌 ลูกจ้างจะได้รับเงินจากกองทุนเมื่อไหร่?

✅ ออกจากงาน ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เช่น ลาออก, เกษียณอายุ, สิ้นสุดสัญญาจ้าง, ถูกเลิกจ้าง

✅ หากลูกจ้างเสียชีวิต เงินจะถูกจ่ายให้แก่บุคคลที่ลูกจ้างระบุไว้ล่วงหน้า


📌 ทางเลือกของนายจ้างที่ไม่ต้องการเข้ากองทุน

🔹 นายจ้างสามารถ จัดทำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตาม พ.ร.บ. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530

🔹 หรือจัดทำ แผนการสงเคราะห์ลูกจ้างของตนเอง ตามกฎกระทรวง ปี 2567 โดยต้องกำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการเป็นลายลักษณ์อักษร


📍 สรุป

“กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง” เป็นหลักประกันทางการเงินที่ช่วยให้ลูกจ้างมีเงินออมสำหรับอนาคต นายจ้างต้องเตรียมความพร้อมก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2568


อ้างอิง https://protection.labour.go.th/


กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

 
 
 

Comments


bottom of page