โครงการ Co-Payment จ้างงานเด็กจบใหม่ (1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564)
Updated: Mar 23, 2021
การเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและภาคเอกชน มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือการจ้างงานให้ผู้จบการศึกษาใหม่ จำนวน 260,000 อัตรา ได้มีงานทำ และช่วยเหลือสถานประกอบการการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลให้สนับสนุนอุดหนุนเงินเดือนค่าจ้างจำนวนร้อยละ 50 ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ต่อเดือนต่อคน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564
คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ
ทางด้านนายจ้างและสถานประกอบการที่ต้องการร่วมโครงการจะต้องอยู่ในระบบประกันสังคม ไม่มีการเลิกจ้างลูกจ้างเดิมเกินกว่าร้อยละ 15 ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ได้รับพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการและทำสัญญาจ้างงานผู้จบการศึกษาใหม่เข้าทำงาน เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือหากผู้จบการศึกษาใหม่ลาออกในระหว่างโครงการสถานประกอบการสามารถหาผู้จบการศึกษาใหม่ทดแทนได้
ในส่วนของผู้จบการศึกษาใหม่ ต้องมีสัญชาติไทยและไม่เคยอยู่ในระบบประกันสังคมมาก่อน อายุไม่เกิน 25 ปี หรือหากอายุเกินกว่า 25 ปี ต้องเป็นผู้จบการศึกษาประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2562 หรือ พ.ศ. 2563 ยังว่างงาน จำนวน 4 กลุ่ม 1.ระดับปริญญาตรี 2.ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) 3.ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และ 4.มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6 )
ขั้นตอนเข้าร่วมโครงการ 4 ขั้นตอนดังนี้
1. การลงทะเบียนนักศึกษาจบใหม่ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เข้าลงทะเบียนในระบบ Co-payment บันทึกข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแนบTranscript ในส่วนของนายจ้างและสถานประกอบการ เข้าลงทะเบียนในระบบ Co-payment แจ้งตำแหน่งงานว่างและจำนวนลูกจ้างที่ต้องการรับเข้าทำงาน
2. การตรวจสอบเอกสารข้อมูลเข้าร่วมโครงการ ระบบจะทำการตรวจสอบ Transcript ของผู้สมัคร และสถานประกอบการนั้นๆ ว่าอยู่ในระบบของสำนักงานประกันสังคมหรือไม่ หากตรงตามเงื่อนไข จึงอนุมัติเข้าร่วมโครงการ
3. การ Matching งาน สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการเมื่อลงทะเบียนในระบบเรียบร้อยแล้ว สามารถค้นหาผู้สมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจ้างงานกันแล้ว ให้ Download สัญญาจ้างเพื่อลงลายมือชื่อร่วมกัน และ upload สัญญาจ้างเข้าระบบอีกครั้ง
4. เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานตรวจสอบเอกสารสัญญาจ้าง หากถูกต้องจึงอนุมัติผลการจ้างงาน เป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องจ่ายเงินค่าจ้างร้อยละ 50 ตามระดับการศึกษาให้กับลูกจ้าง ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และแจ้งข้อมูลการจ่ายเงินให้ลูกจ้าง พร้อมส่งหลักฐานให้กรมการจัดหางานภายในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป และกรมการจัดหางานจะเป็นผู้โอนเงินค่าจ้างร้อยละ 50 ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เข้าบัญชีลูกจ้างโดยตรงภายใน 5 วันทำการ หลังจากได้รับแจ้งหลักฐานจากนายจ้าง/สถานประกอบการแล้ว
คำถามที่พบบ่อย
1. ผู้ประกอบการและนักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนที่ Website
2. บริษัทฯ ตกลงค่าจ้างกับพนักงานเท่าไหร่ ต้องใช้ฐานค่าจ้างจริงนั้น คํานวณเป็นฐานเพื่อจ่ายโอที โอที ประกันสังคม ภาษี และอื่นๆ เช่น จ้าง 15,000 บริษัทจ่าย 7,500 รัฐจ่าย 7,500 บริษัทต้องหักประกันสังคม, ภาษี, คิดโอที จากฐานค่าจ้างเต็ม 15,000 หมายเหตุ: รัฐจะไม่หักประกันสังคมตอนที่โอนเงินคืนให้บริษัท เพราะเป็นหน้าที่บริษัทที่ตั้งหักเงินสะสมและสมทบตอนทำเงินเดือนให้กับพนักงานอยู่แล้ว
2.1 บันทึกฐานเงินเดือนในระบบตามจริง เช่น 15,000 บาท
2.2 เพิ่ม Wage type รายหักประจำ เงินสมทบรัฐบาล 50% โดยไม่คำนวนภาษี, ประกันสังคม, กองทุนฯ ผูกเป็นรายหักประจำที่พนักงาน
3. เงื่อนไขวิธีการระบุข้อมูล bulk payment >> service type 1 / 2 >> ตรงนี้ทางเจ้าหนี้กรมจัดหางานแจ้งว่าไม่ต้องทำอะไรคะ โอนเงินเข้าบัญชีให้พนักงานตามปกติ บัญชีของบริษัทจะเป็นกรุงไทย หรือธนาคารอื่นก็ได้ แต่บัญชีของพนักงานต้องเป็นกรุงไทยเท่านั้นและลงทะเบียนไว้ใน Web พอเงินเข้าบัญชีพนักงานแล้วทางกรมจัดหางานจะทราบเอง และโอนเงินส่วน 50% ตามเข้าไป
4. ต้องเป็นการจ่ายเงินเดือน เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น
5. รัฐจ่ายให้ 50% แต่ไม่เกิน 7,500 ถ้าบริษัทจ้างด้วยเงินเดือน 16,000 รัฐจ่ายให้ 7,500 บริษัทจ่าย 8,500
6. กรณีพนักงานเริ่มกลางเดือนเช่นพนักงานเงินเดือน 20,000 เริ่มงานวันที่ 16 ของเดือน เดือนนั้นๆ จะต้องจ่ายพนักงาน 10,000 บาท รัฐจ่ายให้ 3,750 (50% ของครึ่งหนึ่งของอัตราสูงสุด 15,000) บริษัทจ่าย 6,250
Comments