Severance Pay - Step by Step
การจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานเป็นเรื่องสำคัญที่นายจ้างและลูกจ้างต้องเข้าใจ โดยเฉพาะในแง่ของ ข้อบังคับตามกฎหมายแรงงาน และการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากปฏิบัติไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมายและความไม่พึงพอใจของทั้งสองฝ่าย
ประเภทเงินได้พึงประเมินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน
เงินได้พึงประเมินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน มีดังนี้
(ก) เงินบำเหน็จตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นเงินได้ที่คำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณบำเหน็จตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จข้าราชการ
(ข) เงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) เป็นกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นโดยสมัครใจ เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินสะสมไว้ใช้หลังเกษียณ หรือลาออกจากงาน โดยแบ่งประเภทของเงินที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็น 3 ส่วนหลัก:
- เงินสะสมของลูกจ้าง (Employee’s Contribution) เป็นเงินที่ลูกจ้างสะสมไว้เองในกองทุน ได้รับคืนเต็มจำนวนเมื่อออกจากงาน
- เงินสมทบของนายจ้าง (Employer’s Contribution) เป็นเงินที่นายจ้างสมทบให้พนักงาน ได้รับคืนตามเงื่อนไขของกองทุน
- ผลประโยชน์จากการลงทุนของกองทุน (Investment Returns) เป็นผลกำไรจากการนำเงินกองทุนไปลงทุน ได้รับคืนตามกฎเกณฑ์ของกองทุน
(ค) เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน (Severance Pay) เป็นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายให้ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง ไล่ออก โดยไม่มีความผิด กรณีที่นายจ้างสามารถเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยหากลูกจ้างมีความผิด เช่น:
- ทุจริตต่อหน้าที่
- จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
- ฝ่าฝืนกฎระเบียบของบริษัทอย่างร้ายแรง
- ละทิ้งหน้าที่ติดต่อกันเกิน 3 วันทำงาน โดยไม่มีเหตุอันสมควร
- ลูกจ้างประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
- ลูกจ้างสมัครใจขอลาออกเอง
- ลูกจ้างได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่เป็นความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
- การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามกำหนดเวลานั้น ๆ
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินชดเชยตามอายุงาน
กฎหมายกำหนดอัตราการจ่ายเงินชดเชย (Severance Pay) ตามระยะเวลาทำงานของลูกจ้าง ดังนี้:
อายุงานของลูกจ้าง | อัตราเงินชดเชย (Severance Pay) |
120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี | อัตราค่าจ้างสุดท้าย 30 วัน |
1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี | อัตราค่าจ้างสุดท้าย 90 วัน |
3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปี | อัตราค่าจ้างสุดท้าย 180 วัน |
6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี | อัตราค่าจ้างสุดท้าย 240 วัน |
10 ปี แต่ไม่ถึง 20 ปี | อัตราค่าจ้างสุดท้าย 300 วัน |
20 ปีขึ้นไป | อัตราค่าจ้างสุดท้าย 400 วัน |
วิธีคำนวณเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน
เงินชดเชยคำนวณจาก ค่าจ้างสุดท้าย ที่ลูกจ้างได้รับ และสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
ตัวอย่างการคำนวณ: ลูกจ้างทำงานมา 15 ปี และได้รับค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท
- อัตราเงินชดเชย = ค่าจ้าง 300 วัน หรือ 10 เดือน
- เงินชดเชยที่ต้องจ่าย = 50,000 x 10 = 500,000 บาท
สิทธิการยกเว้นภาษีเงินชดเชย:
- ลูกจ้างที่ได้รับเงินชดเชยจากการเลิกจ้าง แต่ไม่รวมเงินชดเชยจากการเกษียณอายุ สามารถได้รับ การยกเว้นภาษี สำหรับเงินชดเชยที่ไม่เกิน ค่าจ้างของ 400 วันสุดท้าย แต่ต้องไม่เกิน 600,000 บาท
ตัวอย่างการคำนวณภาษี
- ส่วนยกเว้นภาษีเงินชดเชยในส่วน 400 วันแรก
- ตามเงื่อนไขยกเว้นภาษีใหม่ จะได้รับการยกเว้นไม่เกินค่าจ้าง 400 วัน หรือ 50% ของค่าจ้างสุดท้าย × จำนวนปีที่ทำงาน (เลือกค่าน้อยกว่า)
- 50% ของค่าจ้างสุดท้าย × จำนวนปีที่ทำงาน = (50,000 × 50%) × 15 = 375,000 บาท
- ค่าจ้าง 400 วัน = (50,000 × 400) ÷ 30 = 666,667 บาท
- ดังนั้น ยกเว้นภาษีได้ 375,000 บาท (เนื่องจากเป็นค่าที่น้อยกว่า 400 วัน)
- ส่วนที่ต้องเสียภาษี
- เงินชดเชยที่ได้รับ = 500,000 บาท
- หักส่วนที่ยกเว้น = 500,000 – 375,000 = 125,000 บาท
- ส่วนที่เหลือ 125,000 บาทนี้ จะต้องถูกนำมาคำนวณภาษี
(ง) เงินชดเชยพิเศษหรือเงินได้ที่จ่ายครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างต้องออกจากงาน ซึ่งไม่ใช่เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน แต่เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายเพิ่มเติมให้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน หรือเป็นไปตามนโยบายของบริษัท
โดยทั่วไป เงินชดเชยพิเศษจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ มาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งทำให้สามารถเลือก คำนวณภาษีแบบแยกต่างหาก จากเงินได้ประเภทอื่นได้ เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง
วิธีเสียภาษีสำหรับเงินได้เพราะเหตุออกจากงาน
- หากลูกจ้างทำงาน ไม่ถึง 5 ปี หรือไม่เข้าเงื่อนไข ต้องนำเงินชดเชยไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้ประเภทอื่น ๆ
- หากลูกจ้างทำงาน มากกว่า 5 ปี และเป็นการเลิกจ้างที่เข้าเงื่อนไข สามารถเลือก คำนวณภาษีแยกต่างหาก เพื่อช่วยลดภาระภาษี

ตัวอย่างใบแนบ ภ.ง.ด.90/91 กรณีเลือกเสียภาษีกรณีไม่นำไปคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นๆ
นายจ้างควรปฏิบัติอย่างไร?
- แจ้งการเลิกจ้างอย่างเป็นทางการ: แจ้งล่วงหน้าตามกฎหมายหรือข้อตกลง
- คำนวณและจ่ายเงินชดเชย: ชำระเงินให้ถูกต้องและครบถ้วน
- ออกหนังสือรับรองการทำงาน: ให้ลูกจ้างใช้สมัครงานใหม่หรือทำธุรกรรมอื่น ๆ
สิ่งที่ลูกจ้างควรทำ
- ตรวจสอบสิทธิของตนเอง: ศึกษากฎหมายแรงงานเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับเงินชดเชยถูกต้อง
- ขอเอกสารจากนายจ้าง: ขอหนังสือรับรองการทำงานและหลักฐานการจ่ายเงินชดเชย
- ปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: หากไม่ได้รับเงินชดเชย สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
สรุป
การจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานเป็นสิทธิที่สำคัญของลูกจ้าง และเป็นข้อบังคับทางกฎหมายที่นายจ้างต้องปฏิบัติตาม ความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้การเลิกจ้างเป็นธรรม ลดความขัดแย้ง และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร 📌 ต้องการระบบ HR ที่ช่วยจัดการเรื่องเงินเดือนและสิทธิพนักงานอย่างครบวงจร? COACH HCM ช่วยให้การบริหารงาน HR คำนวณ Severance Pay เป็นเรื่องง่าย