นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท ภูมิซอฟต์ จำกัด ต่อไปเรียกว่า “บริษัท” ขอแนะนำให้ลูกค้าทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคล (privacy policy) นี้ เนื่องจาก นโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะลูกค้า เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของลูกค้า เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
1. คำนิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถบ่งบอกตัวบุคคลได้ (ไม่ว่าด้วยข้อมูลนั้นเอง หรือโดยประกอบกับข้อมูลอื่น)
ข้อมูลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูล เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเห็นทางการเมือง ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลชีวภาพ (Face ID, ลายนิ้วมือ) เป็นต้น
ลูกค้า หมายถึง ผู้ที่มาติดต่อเพื่อประสานงานโครงการและหรือทำสัญญา/ก่อนสัญญา
2. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ เพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อติดต่อเพื่อประสานงานโครงการและหรือทำสัญญา/ก่อนสัญญาโดยมีข้อมูลดังนี้
- ชื่อ – นามสกุล
- วัน/เดือน/ปี เกิด
- ชื่อเล่น (ถ้ามี)
- ตำแหน่ง (ถ้ามี)
- เบอร์โทรศัพท์
- อีเมล
- ที่อยู่
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
โดยกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการและฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามตารางนี้
หมวดของการดำเนินงาน | กิจกรรม | ฐานการประมวลผล |
การติดต่อประสานงาน | เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดต่อประสานงานนำเสนอการขาย | สัญญา/ก่อนสัญญา |
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดต่อนำส่งใบเสนอราคา | สัญญา/ก่อนสัญญา | |
การทำสัญญา | เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบสัญญาการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง และเอกสารแนบสัญญา | สัญญา/ก่อนสัญญา |
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการติดต่อเรียกเก็บเงินค่าสินค้าและบริการ | สัญญา/ก่อนสัญญา | |
เพื่อใช้เป็นข้อมูลลูกค้าอ้างอิงการใช้สินค้าและบริการของบริษัท | สัญญา/ก่อนสัญญา | |
การดำเนินการตามสัญญา | เพื่อติดต่อประสานงานระหว่างการดำเนินงานโครงการ | สัญญา/ก่อนสัญญา |
หมวดของการดำเนินงาน | กิจกรรม | ฐานการประมวลผล |
การติดตามการให้บริการ | เพื่อสำรวจความพึงพอใจในการให้บริการ | สัญญา/ก่อนสัญญา |
2.2 บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของลูกค้าอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
2.3 หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง และ/หรือเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เป็นการดำเนินการเพื่อให้ปฏิบัติสัญญาหรือเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ที่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมให้ลูกค้าผ่านประกาศหน้าเว็บไซต์ และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมจากลูกค้าก่อนการดำเนินการหรือทำกิจกรรมใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น (หากกฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม)
3. การใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
3.1 ในการใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น
3.2 นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ บริษัทจะขอความยินยอมจากลูกค้าก่อนทำการประมวลผล เว้นแต่
(1) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
(2) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของลูกค้า และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของลูกค้า
(4) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
(5) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ
3.3 บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น และจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 30 วัน หรือขอความยินยอมจากลูกค้า (กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม) ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ข้างต้น และเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
4. การโอนไปยังต่างประเทศ (Transfer to Third Country)
บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของบริษัท ทั้งนี้ลูกค้าตกลงให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าออกนอกประเทศไทยไปยังบุคคลหรือบริษัทที่อยู่ในประเทศอื่น หรือภายใต้เขตอำนาจกฎหมายของประเทศอื่น ไม่ว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศนั้นอาจถึงเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในระดับเดียวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
5. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ลูกค้ามีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ของข้อมูล ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิดังต่อไปนี้
5.1 การขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบอิเลคทรอนิกส์ที่ลูกค้าอาจส่งให้บุคคลภายนอกหรือขอให้บริษัทส่งโดยตรง
5.2 การร้องขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.3 การโต้แย้งหรือขอระงับการใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและวัตถุประสงค์อื่นใด
5.4 การขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เมื่อไม่มีความจำเป็น รวมทั้งขอจำกัดขอบเขตใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ไม่สามารถให้ลบได้
5.5 ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งลูกค้าไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
5.6 ขอยกเลิกการให้ความยินยอมใดๆ
5.7 ขอโอนย้ายข้อมูลไปที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
5.8 การร้องเรียนกับหน่วยงานที่ควบคุมในกรณีที่ลูกค้าเชื่อว่ามีการละเมิดสิทธิลูกค้า
ทั้งนี้ การใช้สิทธิของลูกค้าจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด
ข้อควรระวัง
หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัทต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามฐานสัญญา หรือฐานประโยชน์อันชอบธรรม หรือฐานหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของตาม (5.4) ได้
กรณีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าด้วยฐานความยินยอมที่เกี่ยวกับสัญญา เพื่อการปฎิบัติตามสัญญา หากลูกค้าได้ใช้สิทธิตามข้อ (5.4) บริษัทจะไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญา และ/หรืออาจมีผลทำให้สัญญาสิ้นสุดได้
กรณีลูกค้าไม่ให้ข้อมูล บริษัทจะไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญา และ/หรืออาจมีผลทำให้สัญญาสิ้นสุดได้
6. ระยะเวลาการเก็บข้อมูล (Data Retention)
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตลอดระยะเวลาของสัญญาบริการ เมื่อสิ้นสุดสัญญาบริษัทจะสำรองข้อมูลให้กับลูกค้าหากได้รับแจ้งและทำลายในทันทีหรือตามข้อตกลงที่ทำร่วมกัน และกรณีที่ยังไม่มีสัญญาเก็บข้อมูลการติดต่อไป 10 ปีนับจากวันที่ได้รับข้อมูล
7. ข้อจำกัดความรับผิด
แม้บริษัทจะได้ใช้มาตรการและเทคโนโลยีเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มความสามารถ แต่บริษัทไม่อาจรับรองได้ว่ามาตรการและเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีความสมบูรณ์ โดยปราศจากความบกพร่องหรือข้อผิดพลาดใดๆ บริษัทจึงขอสงวนสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในทุกกรณี
8. การแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ลูกค้าสามารถแจ้งเหตุหรือการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ของบริษัท ตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 9. ของประกาศฉบับนี้ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และการบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมิดดังกล่าว บริษัทขอให้ลูกค้าโปรดแจ้งให้บริษัททราบถึงการละเมิดดังกล่าวในทันทีที่ลูกค้าทราบหรือโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถปฏิบัติได้
9. ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายสิทธิส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือการดำเนินการใดๆ ของบริษัทเกี่ยวกับการใช้รวบรวม จัดเก็บ เปิดเผย และการขอใช้สิทธิ์ตามกฏหมายข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทจัดเก็บได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
– อีเมล dpo@puumsoft.co.th
– เว็บไซต์ https://www.puumsoft.co.th
– เบอร์โทร 0 2260 0100-2
– ที่อยู่ติดต่อ 54 อาคารบีบี บิลดิ้ง ชั้น 14 ห้อง 1402 ถนนสุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล
บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากลูกค้า บริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ บริษัทอาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบโดยตรง หรือผ่านทาง เว็บไซต์ https://www.puumsoft.co.th หรือผ่านช่องทางอื่นของบริษัท
นโยบายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
นายอาภรณ์ ปอล ศรีพิพัฒน์
กรรมการผู้จัดการ
อ้างอิง: https://www.pdpc.or.th/
นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครและพนักงาน
บริษัท ภูมิซอฟต์ จำกัด ต่อไปเรียกว่า “บริษัท” ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัว (privacy policy) นี้ เนื่องจาก นโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของท่านในฐานะผู้สมัครและ/หรือพนักงาน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว ดังต่อไปนี้
1. คำนิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถบ่งบอกตัวบุคคลของผู้สมัครและ/หรือพนักงานได้ (ไม่ว่าด้วยข้อมูลนั้นเอง หรือโดยประกอบกับข้อมูลอื่น) ซึ่งในที่นี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อนามสกุล อายุ ที่อยู่ เพศ อาชีพ วันเกิด สถานภาพการสมรส สัญชาติ ข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทางและการเข้าออกประเทศ ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลใบขับขี่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไลน์ไอดี ข้อมูลในเฟสบุ๊ค เว็บไซส์คุ้กกี้ รูปภาพ ข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน ทะเบียนรถ เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น ข้อมูลใบสมัคร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน สัญญา ใบอนุญาตทำงาน ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รหัสพนักงาน เงินเดือน ค่าตอบแทน โบนัส ตำแหน่ง สวัสดิการ ภาษีอากร รายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมาย เป้าหมายการทำงาน ผลการประเมินงาน การเข้ารับการฝึกอบรม บันทึกการลาและการขาดงาน ข้อมูลเกี่ยวกับความประพฤติและการกระทำผิดกฎหมายและ/หรือวินัยการทำงาน ข้อมูลและสาเหตุการพ้นสภาพการเป็นพนักงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ข้อมูลการสื่อสารและการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต และอีเมล เป็นต้น
ข้อมูลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูล เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความเห็นทางการเมือง ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลชีวภาพ (Face ID, ลายนิ้วมือ) เป็นต้น
ผู้สมัคร หมายถึง ผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (outsource) และ พนักงาน freelance ที่ทำงานให้แก่บริษัท แล้วแต่กรณี ไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดำเนินการโดยผู้สมัครเอง หรือเป็นการรับสมัครงานภายในบริษัท หรือผ่านการแนะนำของบุคคลอื่นใด หรือผ่านการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน
พนักงาน หมายถึง ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาเพื่อทำงานให้แก่บริษัทในฐานะพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (outsource) และ พนักงาน freelance ที่เข้ามาทำงานในบริษัท แล้วแต่กรณี
2. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ให้บริการอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอเพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อติดต่อเพื่อประสานงานโครงการและหรือทำสัญญา/ก่อนสัญญาโดยมีข้อมูลดังนี้
- ชื่อ นามสกุล
- ชื่อเล่น
- ตำแหน่ง
- ว/ด/ป ที่เริ่มงาน/ ลาออกจากงาน
- เลขประจำตัวพนักงาน
- ที่อยู่ปัจจุบัน / ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
- วดป เกิด (สถานที่เกิด)
- เพศ
- เบอร์โทรศัพท์
- อีเมล
- บัญชีโซเชียล
- เลข / วันหมดอายุบัตรประจำตัวประชาชน
- ภาวะทางทหาร
- ประวัติการอบรม/สัมมนา/ฝึกงาน
- ประวัติการศึกษา (สถาบัน และปี)
- ประวัติบิดา/มารดา/คู่สมรส (ชื่อ/เลขบัตรประชาชน/วันเกิด/สถานภาพการทำงาน)
- ประวัติการศึกษา (สถาบัน และปี)
- ประวัติการทำงาน (สถานที่ ระยะเวลา ตำแหน่ง ลักษณะงาน เงินเดือน สาเหตุที่ลาออก)
- ใบประกอบวิชาชีพ(เลขที่/วันหมดอายุ)
- ความสามารถ/ใบรับรอง (คอมพิวเตอร์,ความสามารถด้านภาษา/ผลการทดสอบความรู้ทางภาษา)
- ความสามารถในการขับขี่ / เลขใบขับขี่
- ระบุสายงานและตำแหน่งที่ต้องการ
- สำเนาหลักฐานการเกณฑ์ทหาร
- สำเนาทวิ 50
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารเพื่อใช้รับเงินเดือน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- เงินเดือนและรายได้
- ภาพเคลื่อนไหว
- รูปภาพใบหน้าตอนเข้า-ออกประตู
- Temp file COACHPS
- Logs login/logout เข้า AD ของพนักงาน
3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว
3.1 ผู้สมัครและพนักงานรับทราบว่าภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการตามกิจกรรมการรับสมัครงาน สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างแรงงานแบบมีระยะเวลา สัญญาว่าจ้างที่ปรึกษา และสัญญาว่าจ้างอื่นใด (“สัญญา”) บริษัทสามารถจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานได้ (“ประมวลผล”)
บริษัทจำเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและพนักงานอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ เพื่อดำเนินกิจกรรมการรับสมัครงาน การปฏิบัติตามสัญญา กฎเกณฑ์ ระเบียบภายใน และ/หรือข้อกำหนดการดำเนินงานของบริษัท และ/หรือการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและพนักงานที่ถูกต้อง ครบถ้วนและเพียงพอ อาจส่งผลให้การให้การดำเนินการใด ๆ ตามข้อตกลง หรือข้อกำหนดระหว่างบริษัทและผู้สมัครและพนักงานเกิดความล่าช้าหรือความไม่สะดวกขึ้น และในกรณีจำเป็นซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือตามกฎหมาย บริษัทอาจต้องปฏิเสธการดำเนินการตามข้อผูกพันใด ๆ ที่บริษัทมีต่อผู้สมัครหรือพนักงาน แล้วแต่กรณี อย่างไรก็ตาม บริษัทเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลและจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานเท่าที่จำเป็นและภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยกิจกรรมที่บริษัทดำเนินการและฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามตารางนี้
หมวดของการดำเนินงาน | กิจกรรม | ฐานการประมวลผล |
การบริหารจัดการด้านการสมัครและจ้างแรงงาน [self-managing and outsource performing] | การรับสมัครงานที่ดำเนินการโดยบริษัทซึ่งผู้สมัครและพนักงานติดต่อเข้ามาที่บริษัทด้วยตนเอง หรือการรับสมัครงานภายในบริษัท | สัญญา |
การสมัครงานโดยการแนะนำของบุคคลอื่นใด หรือโดยการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน | สัญญา | |
การสัมภาษณ์งาน การตรวจสอบประวัติการศึกษาหรือประวัติการทำงานย้อนหลังจากแหล่งข้อมูลอื่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเปรียบเทียบ การคัดเลือก การจัดทำสัญญา | สัญญา/ ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานของพนักงาน [self-managing and outsource performing] | การขึ้นทะเบียนพนักงาน การจัดเตรียมบัตรพนักงาน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อีเมล username & password สำหรับการเข้าระบบต่างๆ ที่จำเป็น และอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติงานของพนักงาน และการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ หรือเพื่อการปฏิบัติงาน การสอบ | สัญญา |
การจัดทำหรือต่ออายุวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน การขออนุญาตหรือต่อใบอนุญาตที่เกี่ยวกับการทำงานของพนักงาน การขอความเห็นชอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ ความยินยอม(เมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว) | |
การขอประวัติการแพ้อาหาร การขอประวัติการฉีดวัคซีน และการแพ้สิ่งต่างๆเพื่อการจัดอบรม หรือกิจกรรมต่างๆ | ความยินยอม | |
การตรวจประวัติอาชญากรรม (เฉพาะบางตำแหน่งที่บริษัทกำหนด) | ความยินยอม | |
การบริหารจัดการด้านค่าตอบแทน ผลประโยชน์ และสวัสดิการพนักงาน [self-managing and outsource performing] | การบริหารจัดการเรื่องเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าจ้าง โบนัส ค่าล่วงเวลา ค่าที่พัก ค่าเดินทาง รวมถึงผลประโยชน์ต่างๆให้กับพนักงาน | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย |
การบริหารจัดการเรื่องกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนเงินทดแทน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านภาษีอากรของพนักงาน เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านสวัสดิการ ด้านการป้องกัน การมาตรการบรรเทาอุบัติเหตุและอุบัติภัย การรายงาน และการใช้บริการห้องพยาบาล | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบันทึกการเบิกจ่ายยารักษาโรค การบรรเทาอุบัติเหตุ อุบัติภัย เหตุฉุกเฉินหรืออันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ที่มีต่อพนักงาน การรักษาความปลอดภัย | ความยินยอม/ ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล | |
การบริหารจัดการด้านประกันชีวิต และประกันภัยกลุ่ม การพิจารณารับประกันภัย การทำประกันภัยต่อ การพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน | สัญญา / ประโยชน์อันชอบธรรม/ความยินยอม (เมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว) | |
การส่งข้อมูลพนักงานให้ผู้ให้บริการและที่ปรึกษา เช่น การส่งข้อมูลเพื่อทำการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลด้านค่าตอบแทน | ความยินยอม | |
การประกาศวันเกิด และการแสดงความอาลัยเกี่ยวกับความสูญเสียบุคคลในครอบครัวของพนักงาน การขอประวัติการแพ้อาหาร และการแพ้สิ่งต่างๆเพื่อการจัดกิจกรรม และงานเลี้ยงต่างๆ | ความยินยอม | |
การบริหารจัดการด้านกิจกรรมพนักงาน เช่น งานเลี้ยงวันเกิด งานเลี้ยงปีใหม่ งานสังสรรค์ ทริปท่องเที่ยวต่างๆ ที่จัดให้แก่พนักงาน | สัญญา /ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการด้านวันหยุด วันลา การมาสาย ข้อมูลสถานที่อยู่ในการลงเวลาเข้า-ออก | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีพนักงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือปรากฎเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ของบริษัท | ความยินยอม | |
ประกาศพนักงานใหม่ ประกาศบุคคลที่เป็นพนักงานดีเด่น หรือได้รับการคัดเลือกเป็นพนักงานดีเด่น ประกาศครบอายุการทำงาน ประกาศเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่ง และการย้ายหน่วยงานของพนักงาน | ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การอายัดเงินเดือนหรือค่าตอบแทนอื่นใดตามหมายหรือคำสั่งของกรมบังคับคดี หรือคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย | หน้าที่ตามกฎหมาย |
หมวดของการดำเนินงาน | กิจกรรม | ฐานการประมวลผล |
การบริหารจัดการด้านการฝึกอบรม และการประเมินผลงาน [self-managing and outsource performing] | การเข้ารับการอบรม และการสอบวัดความรู้ในด้านต่างๆ สำหรับพนักงาน | สัญญา /ประโยชน์อันชอบธรรม |
การกำหนดเป้าหมายในการทำงาน การประเมินผลการทำงานของพนักงาน การพิจารณาปรับตำแหน่ง ปรับเงินเดือน และพิจารณาเรื่องโบนัส | สัญญา /ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการงานเรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง [self-managing and outsource performing] | การตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต หรือขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับการทำงานของบริษัท การพิจารณาและลงโทษทางวินัย | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย/ ประโยชน์อันชอบธรรม |
การดำเนินการใดๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดำเนินดคี หรือดำเนินมาตรการใดๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย | สัญญา /หน้าที่ตามกฎหมาย/ ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การส่งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตของพนักงานให้แก่หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานที่มีอำนาจตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ตำรวจ ปปง. กรมสรรพากร กรมบังคับคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น | หน้าที่ตามกฎหมาย / ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง [self-managing and outsource performing] | การบริหารจัดการการลาออก การเกษียณอายุ การเลิกจ้างพนักงาน การแจ้งข้อมูลข้างต้นให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร ธนาคาร สำนักงานประกันสังคม สนง.ตรวจคนเข้าเมือง กองงานคนต่างด้าว เป็นต้น | สัญญา / หน้าที่ตามกฎหมาย |
3.2 บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
3.3 หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง และ/หรือเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เป็นการดำเนินการเพื่อให้ปฏิบัติสัญญาหรือเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ที่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมให้ท่านทราบผ่านทางบอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท ติดประกาศ หรืออีเมลแจ้งให้พนักงานทราบ และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านก่อนการดำเนินการหรือทำกิจกรรมใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น (หากกฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม)
4. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
4.1 ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น
4.2 นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการประมวลผล เว้นแต่
(1) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
(2) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของลูกค้า และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของลูกค้า
(4) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
(5) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ
4.3 บริษัทมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินการตามสัญญา และสัญญาหรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดังกล่าว แต่ทั้งนี้ บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่
(1) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากท่าน
(2) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
(4) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่าน
(5) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
(6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ
4.4 บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นเท่านั้น และจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 30 วัน หรือขอความยินยอมจากท่าน (กรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม) ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ข้างต้น และเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวให้กับบุคคลภายนอก ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานตามกฎหมาย
5.1 เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมการสมัครงาน ดำเนินการตามสัญญา และ/หรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดังกล่าวที่กำหนดไว้ข้างต้น บริษัทอาจส่งโอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของพนักงานให้กับ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกซึ่งเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการ เป็นต้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5.2 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านบนระบบ Cloud Computing ที่ให้บริการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5.3 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านให้กับบริษัทแม่ บริษัทในเครือ หน่วยงานตรวจสอบภายในและภายนอก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการก่อการร้าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการหรือศาล เจ้าพนักงานกรมบังคับคดี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือองค์กรอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดโดยกฎหมาย
ตารางด้านล่างแสดงรายชื่อผู้ให้บริการภายนอกทั้งหมดที่บริษัทใช้บริการและเอกสารอ้างอิงไปยังนโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการภายนอกเหล่านั้น
ผู้ให้บริการภายนอก | นโยบายความเป็นส่วนตัว |
Amazon Web Services (AWS) | https://aws.amazon.com/compliance/thailand-data-privacy/ |
Microsoft | https://privacy.microsoft.com/en-US/ |
CS Loxinfo | https://csl.co.th/csl-files/pdf/03_CSL_The%20Personal%20Information%20Privacy%20Protection%20Policy-TH.pdf |
INET | https://www.inet.co.th/assets/html/data_policy_en.html |
6. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 กรณีท่านประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ ท่านสามารถส่งคำร้องขอเข้ามาที่อีเมล hr@puumsoft.co.th เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว บริษัทจะดำเนินการบันทึกคำร้องขอ ตรวจสอบและตอบกลับคำร้องขอของท่านภายในระยะเวลาอันสมควร
6.2 หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อให้แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวนั้นได้ ทั้งนี้ กรณีบริษัทมีเหตุให้ปฏิเสธคำร้องขอของท่าน บริษัทจะจัดทำบันทึกการปฏิเสธคำขอหรือการคัดค้านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหลักฐานด้วย
6.3 ท่านมีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ของข้อมูล ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหว วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิดังต่อไปนี้
(1) ขอสำเนา หรือขอสำเนารับรองถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหว ของตน
(2) ขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวของตนให้ถูกต้องสมบูรณ์
(3) โต้แย้งหรือขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตน
(4) ขอให้ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตน
(5) ขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
(6) ขอยกเลิกการให้ความยินยอมใดๆ
(7) ขอโอนย้ายข้อมูลไปที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(8) การร้องเรียนกับหน่วยงานที่ควบคุมในกรณีที่ท่านเชื่อว่ามีการละเมิดสิทธิท่าน
ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่บริษัทกำหนด
ข้อควรระวัง
หากเป็นกรณีกิจกรรมที่บริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านตามฐานสัญญา หรือฐานประโยชน์อันชอบธรรม หรือฐานหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านตาม (3) และ (4) ได้
กรณีการประมวลผลด้วยฐานความยินยอมที่เกี่ยวกับสัญญา และกรณีการเก็บและใช้ข้อมูลอ่อนไหวเพื่อการปฎิบัติตามสัญญา หากพนักงานได้ใช้สิทธิตามข้อ (3) (4) และ (6) บริษัทจะไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ ซึ่งจะมีผลทำให้สัญญากับพนักงานต้องสิ้นสุดลง และ/หรือไม่สามารถจัดสรรสิทธิประโยชน์และสวัสดิการบางประเภทให้แก่พนักงานได้ กรณีพนักงานไม่ให้ข้อมูล บริษัทจะไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาได้ ซึ่งจะมีผลทำให้สัญญากับพนักงานต้องสิ้นสุดลง และ/หรือไม่สามารถจัดสรรสิทธิประโยชน์และสวัสดิการบางประเภทให้แก่พนักงานได้
7. ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของท่าน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ประมวลผล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี โดยมีกำหนดระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันสมัครงาน (สำหรับผู้สมัคร) และมีกำหนดระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลง (สำหรับพนักงาน)
8. ข้อจำกัดความรับผิด
แม้บริษัทจะได้ใช้มาตรการและเทคโนโลยีเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเต็มความสามารถ แต่บริษัทไม่อาจรับรองได้ว่ามาตรการและเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีความสมบูรณ์ โดยปราศจากความบกพร่องหรือข้อผิดพลาดใดๆ บริษัทจึงขอสงวนสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในทุกกรณี
9. การแจ้งการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
พนักงานสามารถแจ้งเหตุหรือการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ของบริษัท ตามรายละเอียดที่กำหนดในข้อ 9. ของประกาศฉบับนี้ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน และการบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมิดดังกล่าว บริษัทขอให้พนักงานโปรดแจ้งให้บริษัททราบถึงการละเมิดดังกล่าวในทันทีที่พนักงานทราบหรือโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถปฏิบัติได้
10. ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พนักงานสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือการดำเนินการใดๆ ของบริษัทเกี่ยวกับการใช้รวบรวม จัดเก็บ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
บริษัท ภูมิซอฟต์ จำกัด
ที่อยู่ติดต่อ 54 อาคารบีบี บิลดิ้ง ชั้น 14 ห้อง 1402 ถนนสุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
เว็บไซต์ https://www.coachhcm.com
อีเมล dpo@puumsoft.co.th
เบอร์โทร 0 2260 0100-2
11. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากท่าน บริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ บริษัทอาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้ท่านทราบโดยตรง หรือผ่านช่องทางอื่นของบริษัท โดยท่านสามารถตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้ที่ระบบของบริษัท ติดประกาศ หรืออีเมลแจ้งให้ท่านทราบ
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
นายอาภรณ์ ปอล ศรีพิพัฒน์
กรรมการผู้จัดการ
อ้างอิง: มาตราฐาน ISO27701
