ในอดีตนั้น ระบบ HRM หรือระบบบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแบ่งเบางานเอกสารของงาน HR ช่วยลดการใช้งานกำลังคน และเพิ่มความแม่นยำในการเก็บบันทึกข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ระบบ HRM ในปัจจุบันได้รับพัฒนามากขึ้น มีบทบาทในองค์กรมากขึ้น ได้ขยายขอบเขตจากงานธุรการเป็นงานเชิงกลยุทธ์และก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรียกได้ว่าแนวโน้มของระบบ HRM นั้นเป็นแนวโน้มที่หลายบริษัทควรจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพัฒนาการของตัวระบบจะเป็นอย่างไรบ้าง บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้แล้ว

4 แนวโน้มสำคัญที่จะพลิกโฉมระบบ HRM ในอนาคต
- การใช้ AI และระบบอัตโนมัติ (AI and Automation)
ปัจจัยข้อนี้ได้เข้ามาเพิ่มศักยภาพของระบบ HRM ให้สูงมากขึ้น จากที่แต่เดิมทำได้เพียงแค่บันทึกข้อมูล AI และระบบอัตโนมัติช่วยให้ตัวระบบทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ ดังนี้
- วิเคราะห์และคัดกรองข้อมูล เช่น คัดกรองใบสมัคร วิเคราะห์คุณสมบัติของผู้สมัครงาน
- คำนวณระบบเงินเดือน ค่าโอที ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- คาดการณ์สถานการณ์ โดย AI จะคาดการณ์สถานการณ์จากการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสม เช่น แนวโน้มของคนที่กำลังจะลาออก แนวโน้มทักษะที่ต้องการในองค์กร
- การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพนักงาน
หนึ่งบทบาทสำคัญของ AI คือช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้สะดวกมากขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนดำเนินการและงานเอกสาร เช่น ข้อมูลพนักงาน ประวัติพนักงาน ใบเสร็จเงินเดือน หรือ พนักงานสามารถสอบถามคำถามทั่วไปในบริษัทโดยมีแชทบอทของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- การตัดสินใจด้วยข้อมูล
ระบบ HRM ในอนาคตจะเอื้ออำนวยให้ส่วนงาน HR สามารถตัดสินใจได้ด้วยข้อมูลข้อมูลเชิงประจักษ์มากขึ้น ด้วยระบบที่สามารถรวบรวมข้อมูลอย่างถูกต้องแม่นยำและสามารถสร้างข้อมูลเชิงลึกอย่างการคำนวณอัตราและสถิติการทำงานในแง่มุมต่าง ๆ ของพนักงานเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้โดยมีหลักฐานรองรับและมีประสิทธิผลมากขึ้นในการทำงานเชิงกลยุทธ์
- ความยืดหยุ่นและการรองรับ Hybrid Work
ระบบ HRM จะช่วยเข้ามาแก้ไขข้อจำกัดของการบันทึกเวลาข้อมูลเข้า-ออกงาน การอบรม การแชร์ไฟล์ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของตนเองในบริษัทที่สามารถส่งคำขอได้ออนไลน์ ทำให้พนักงานไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศเพื่อดำเนินการ แต่สามารถดำเนินการจากที่ไหนก็ได้ และสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ได้อย่างไร้ข้อจำกัด

บทบาทใหม่ของ HRM: จากงานธุรการสู่พาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์
จากบทบาทของระบบ HRM ที่แบ่งเบางานกำลังคน ลดความผิดพลาด รวมงานเอกสารให้สามารถค้นหาได้ในที่เดียวนั้น แนวโน้มของระบบ HRM ในอนาคตได้พัฒนาให้สามารถช่วยงานที่ซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น มีส่วนร่วมในงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ด้วยประสิทธิภาพของการเก็บขอมูลและวิเคราะห์ข้อมูลของระบบนั้นทำให้บุคลากรส่วน HR สามารถนำทรัพยากรไปใช้กับงานเชิงกลยุทธ์ได้ เช่น คาดการณ์เรื่องการว่าจ้างคน คัดกรองผู้สมัครเข้าทำงาน หรือวางแผนระบบงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ฯลฯ
ดังนั้น หน่วยงาน HR จึงสามารถพัฒนาองค์กรให้ยืดหยุ่น เพิ่มประสบการณ์ให้กับพนักงาน สามารถใส่ใจกับสวัสดิการพนักงานและกลยุทธ์ของบริษัทได้อย่างมีมิติมากยิ่งขึ้น

บทสรุป: ปรับตัวให้ทันระบบ HRM การลงทุนที่คุ้มค่ากับองค์กรในระยะยาว
เมื่อระบบ HRM ทำได้มากกว่าการจัดเก็บข้อมูล การทำงานเชิงกลยุทธ์ก็จะมีมิติและได้รับการใส่ใจมากขึ้นการช่วยเหลือของระบบที่สามารถวิเคราะห์และสรุปรวมข้อมูล ช่วยให้ทรัพยากรคนสามารถวางแผนและคาดการณ์ให้อย่างแม่นยำ ทั้งยังเพิ่มประสบการณ์ให้กับพนักงาน เอื้ออำนวยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของตนเองในบริษัทได้สะดวกมากขึ้น
องค์กรไหนเห็นความสำคัญก่อน องค์กรนั้นก็ได้เปรียบก่อน เพราะการเลือกระบบที่ใช่คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ COACH HCM ไม่เพียงแต่นำเสนอเทคโนโลยี HRM ที่ล้ำสมัย แต่เรายังเป็นที่ปรึกษาที่พร้อมช่วยคุณวางแผนและปรับใช้โซลูชันให้เข้ากับเป้าหมายขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์แบบ ติดต่อเราวันนี้เพื่อค้นหาระบบ HRM ที่จะเติบโตไปพร้อมกับคุณ
