เมื่อลาออกจากงาน หนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือ “จะทำอย่างไรกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) ที่สะสมไว้?” บทความนี้เราขอสรุปทางเลือกสำคัญในการบริหารจัดการเงินก้อนนี้ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและคุ้มค่าพร้อมข้อดี-ข้อควรระวัง เพื่อช่วยตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ทางเลือกที่ 1 คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดิม
คุณสามารถเลือกที่จะคงเงินสะสมไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทเดิม แม้ว่าจะลาออกจากงานแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ยังได้รับผลตอบแทนต่อเนื่องจากการลงทุน
- สามารถสับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้
- ไม่มีเงินสมทบจากนายจ้าง
- มีค่าธรรมเนียมรายปี: โดยทั่วไปประมาณ 500 บาทต่อปี (ขึ้นกับนโยบายของบริษัทจัดการกองทุน)
เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจว่าจะย้ายงานทันที หรือยังไม่มีแผนงานที่แน่นอนในระยะสั้น
ทางเลือกที่ 2 โอนย้ายไปยังกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทใหม่
หากคุณเริ่มงานใหม่กับองค์กรที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คุณสามารถเลือกโอนย้ายเงินจากกองทุนเดิมไปยังกองทุนใหม่ได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ไม่มีค่าธรรมเนียมหรือภาษี: การโอนย้ายเงินกองทุนไม่ถือเป็นรายได้ จึงไม่มีภาษีหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ
- ไม่ต้องเริ่มต้นสะสมใหม่
- เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว
- แนะนำให้โอนหลังผ่านทดลองงาน: เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในกรณีที่ไม่ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ
- เงินยังคงลงทุนต่อเนื่อง ไม่ขาดช่วง
ขั้นตอนการโอนย้าย
- ติดต่อ บลจ. เดิมเพื่อขอหนังสือแสดงยอดและแบบฟอร์มโอนย้าย
- ยื่นแบบฟอร์มกับ HR บริษัทใหม่ พร้อมเอกสารประกอบ
ทางเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบริหารกองทุนแบบรวมศูนย์ และมีแผนอยู่ในงานใหม่นาน
ทางเลือกที่ 3 ลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
คุณสามารถถอนเงินออกจากกองทุนทั้งหมดได้ แต่จะ ต้องเสียภาษี หากไม่เข้าเงื่อนไขการยกเว้น เช่น อายุไม่ถึง 55 ปี หรือทำงานไม่ถึง 5 ปี
- ได้รับเงินก้อนทันที
- เหมาะกับผู้ที่จำเป็นต้องใช้เงินในระยะสั้น
- เสียโอกาสในการลงทุนและลดหย่อนภาษีในอนาคต
ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากอาจส่งผลเสียในระยะยาวต่อแผนการเกษียณ
ทางเลือกที่ 4 โอนเงินเข้าสู่กองทุนรวม RMF for PVD
ทางเลือกนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการยอดการลงทุนระยะยาวแบบปลอดภาษี โดยสามารถโอนเงินจาก PVD เข้า RMF for PVD ได้
- ไม่เสียภาษีจากการโอน
- เงินลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปีขึ้นไป
- เลือกนโยบายการลงทุนได้เองตามระดับความเสี่ยง
- ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อเนื่องตามเกณฑ์ของ RMF
เหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายด้านการเกษียณระยะยาว และไม่ต้องการถอนเงินออกมาใช้ทันที
💡 เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย
สรุปจาก COACH HCM
การโอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือคงเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ควรพิจารณาตามความมั่นคงของงานใหม่ แผนการเงินส่วนบุคคล และเป้าหมายเกษียณระยะยาวของคุณ หากองค์กรของคุณต้องการระบบ HR COACH Payroll ที่สามารถบริหารจัดการ สิทธิประโยชน์ด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้อย่างครบวงจร COACH HCM พร้อมช่วยจัดการตั้งแต่การเงิน สวัสดิการ ไปจนถึงกระบวนการลาออก
