แบบฟอร์มกองทุนเงินทดแทนคืออะไร? (กท.16 / กท.44)
เมื่อเกิดเหตุ อุบัติเหตุจากการทำงาน, การเจ็บป่วยจากงาน, หรือ เหตุสูญหายระหว่างปฏิบัติงาน นายจ้างมีหน้าที่แจ้งกองทุนเงินทดแทนด้วยแบบฟอร์มที่กำหนด ได้แก่
- กท.16 แจ้งเหตุอันตรายจากการทำงาน
- กท.44 ใช้สำหรับส่งตัวลูกจ้างไปรักษาที่โรงพยาบาลคู่สัญญา
ทั้งสองแบบฟอร์มถือเป็นเอกสารสำคัญในกระบวนการ Workplace Safety, Compliance, และการขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน
กท.16 คืออะไร? (แบบแจ้งการประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญหาย)
แบบฟอร์ม กท.16 ใช้สำหรับรายงานเหตุอันตรายที่เกิดขึ้นกับลูกจ้างในระหว่างปฏิบัติงาน เช่น
- บาดเจ็บ
- เจ็บป่วยเพราะงาน
- สูญหาย
- เสียชีวิต
วัตถุประสงค์ของ กท.16
- ใช้ประกอบการขอรับเงินทดแทน
- เป็น “รายงานอุบัติเหตุจากการทำงาน” ตามกฎหมาย
- ใช้เป็นหลักฐานด้านความปลอดภัย (Workplace Safety Record)
ใครต้องยื่น กท.16?
นายจ้างต้องยื่นภายใน 15 วันหลังทราบเหตุ หากยื่นล่าช้า อาจถูกปรับและอาจกระทบสิทธิของลูกจ้าง
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบ
- ใบรับรองแพทย์
- รายงานตำรวจ (ถ้ามี)
- ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
- เอกสารเพิ่มเติมตามที่ประกันสังคมกำหนด
Tip: แนะนำให้ HR เก็บเอกสารทั้งหมดบนระบบ HRIS / COACH HCM เพื่อลดงานเอกสารและค้นหาได้ง่าย
กท.44 คืออะไร? (แบบส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาล)
แบบฟอร์ม กท.44 ใช้เมื่อองค์กรต้องการส่งลูกจ้างไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเครือข่ายของกองทุนเงินทดแทน เพื่อให้ โรงพยาบาลเบิกค่ารักษาให้โดยตรง ลูกจ้างไม่ต้องสำรองจ่ายเอง
วัตถุประสงค์ของ กท.44
- ใช้เป็น Medical Referral Form
- ลดขั้นตอนการสำรองเงิน
- ช่วยให้โรงพยาบาลทำการเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น
ขั้นตอนการใช้ กท.44
- นายจ้างออกแบบฟอร์ม กท.44
- ลูกจ้างนำเอกสารไปที่โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลดำเนินการรักษาและเบิกค่ารักษาตามสิทธิ
เอกสารที่ต้องใช้
- แบบฟอร์ม กท.44 (ต้นฉบับ + สำเนา)
- สำเนาบัตรประชาชนลูกจ้าง
- เอกสารอื่น ๆ ที่สถานพยาบาลระบุ
ความแตกต่างของ กท.16 และ กท.44
รายการ |
ใช้เมื่อ |
ผู้ดำเนินการ |
วัตถุประสงค์ |
เกี่ยวข้องกับ |
กท.16 |
แจ้งเหตุอันตรายที่เกิดจากงาน |
นายจ้างยื่นต่อกองทุนเงินทดแทน |
รายงานเหตุ + ขอรับสิทธิ |
Occupational Accident Report |
กท.44 |
ส่งตัวลูกจ้างไปรักษาพยาบาล |
โรงพยาบาลทำเรื่องเบิกจ่าย |
รักษาโดยไม่ต้องสำรองเงิน |
Medical Referral Process |
โทษกรณียื่น กท.16 ล่าช้า
กรณียื่นแบบฟอร์มเกินกำหนด 15 วัน อาจมีผลดังนี้
- นายจ้างอาจถูกปรับตาม พ.ร.บ. เงินทดแทน
- สิทธิประโยชน์ของลูกจ้างอาจล่าช้า
- เสี่ยงตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
- กระทบความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยขององค์กร
Checklist สำหรับ HR และนายจ้าง
ก่อนยื่น กท.16
- เก็บใบรับรองแพทย์
- สรุปรายงานเหตุการณ์
- บันทึกข้อมูลลงระบบ COACH HCM
- ตรวจสอบหลักฐานประกอบ
- ส่งแบบภายใน 15 วัน
ก่อนออก กท.44
- ตรวจสอบโรงพยาบาลคู่สัญญา
- จัดเตรียมสำเนาบัตรประชาชนลูกจ้าง
- กรอกข้อมูลนายจ้าง/สถานประกอบการให้ถูกต้อง
COACH HCM ช่วยองค์กรในด้านนี้อย่างไร
COACH HCM ช่วย HR จัดการเหตุอุบัติเหตุได้ครบกระบวนการ เช่น
- อัปโหลดใบรับรองแพทย์ผ่าน ESS
- เก็บแบบฟอร์ม กท.16 และ กท.44 บนระบบ HRIS
- แจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อใกล้ครบกำหนด 15 วัน
- มีระบบบันทึกเหตุอันตรายและรายงานย้อนหลัง
- ลดการทำเอกสารซ้ำซ้อนและลดข้อผิดพลาด
ดูรายชื่อลูกค้าองค์กรที่ใช้งาน COACH HCM https://coachhcm.com/th/our-customers/
Q&A — คำถามที่พบบ่อย
Q1: กท.16 ต้องยื่นภายในกี่วัน?
➡ ภายใน 15 วันหลังทราบเหตุ
Q2: ถ้ามี กท.44 ลูกจ้างต้องสำรองค่ารักษาไหม?
➡ ไม่ต้อง โรงพยาบาลเบิกตรงได้เลย
Q3: ใช้สำเนาใบรับรองแพทย์ได้ไหม?
➡ ส่วนใหญ่ต้องใช้ต้นฉบับ แต่บางกรณีใช้สำเนารับรองได้
Q4: หากเหตุเกิดนอกเวลาแต่เป็นงานนายจ้าง ใช้ กท.16 ได้หรือไม่?
➡ ได้ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นงานตามคำสั่งนายจ้าง
Q5: ยื่นล่าช้ามีผลอย่างไร?
➡ อาจถูกปรับและอาจกระทบสิทธิของลูกจ้าง
อ้างอิง
https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/1e343b47b0aafdd92dba34e7a4c0b384.pdf
https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/64da2ff1b2a127e1622361498d315944.pdf
